สิงห์ตะปบเหยื่อ พระอาจารย์จวบ 2567

สิงห์ตะปบเหยื่อ-ตะปบทรัพย์ รุ่นแรก พระอาจารย์จวบ วัดแสนสุขธรรมาราม จ.ร้อยเอ็ด

แนะนำควรอ่านให้จบ จะได้ทราบว่าสิงห์กายสิทธิ์นี้มีคุณอย่างไร และทำไมควรต้องมีไว้บูชา

ขอกล่าวถึงเครื่องรางสิงห์ตะปบเหยื่อของพระอาจารย์จวบ ตามที่ท่านเมตตาเล่าให้ฟัง ท่านว่าได้นำเอา2สายวิชามารวมกันนั่นก็คือหนึ่งวิชาสิงห์เหยียบโลกหรือตบะสิงห์ของพ่อใหญ่จารย์ศรี ในสายสำเร็จลุน มาผนวกกับในสายวิชาพยนต์สิงห์ของหลวงปู่รอด วัดทุ่งศรีเมือง ที่พระอาจารย์ท่านได้ร่ำเรียนมาสำเร็จเป็นวิชาสิงห์ตะปบเหยื่อคือที่สุดของอำนาจตบะสิงห์ มีคุณด้านเมตตามหาอำนาจ คนทั้งรักทั้งเกรง มีกินมีใช้ไม่หมด ทั้งยังมั่งคั่งด้วยลาภยศและบริวาร

โดยสิงห์ตะปบเหยื่อนี้มีฤทธิคุณตามความเชื่อแต่โบราณที่พระอาจารย์ท่านได้อธิบายไว้ดังนี้

-อันสิงห์ตะปบเหยื่อ คำว่าอดอยากนั้นย่อมไม่มีปรากฏแก่ผู้บูชา แต่หากเป็นสิงห์ทั่วๆไปแต่โบราณเขาเอาไว้ให้ข้าราชการเจ้าขุนมูลนายที่ปกครองคนเอาไว้บูชากัน ซึ่งแบบนั้นจะดีเด่นทางด้านมหาอำนาจปกครองคนเพียงอย่างเดียว ด้านลาภผลไม่ค่อยมี เพราะข้าราชการเหล่านั้นมีเงินเดือนประจำจึงไม่ต้องเดือดร้อนทำมาหากิน ครั้นคนธรรมดาค้าขายเอามาใช้บางทีมีแต่คนกลัว พาลไม่กล้าซื้อข้าวซื้อของเราเลยก็มี แต่สิงห์ตะปบเหยื่อของพระอาจารย์จวบนี้ มีทั้งอำนาจดั่งบรรลือสีหนาท และยังพ่วงด้วยวิชาตะปบเหยื่อ-ตะปบทรัพย์ นี่คือสาเหตุที่พระอาจารย์ท่านให้ปั้นรูปหัวหมูเขี้ยวตันไว้ที่อุ้งเท้าสิงห์อันเป็นตัวแทนของเหยื่อนับเป็นเคล็ดวิชาแห่งเครื่องรางสิงห์ที่พระอาจารย์ท่านสร้างไว้ได้อย่างแยบคาย

-หากใช้ทางด้านเมตตามหาอำนาจ เชื่อกันว่าผู้ใดเขาพบเจอเราจะบังเกิดเมตตาดูเด่นเป็นสง่าราศีและน่าเกรงขาม เข้าไปลึกๆในใจจะหวั่นๆ กล้าๆกลัวๆเหมือนอยู่ใกล้เสือใกล้สิงห์ แม้นหากต้องไปติดต่อเจรจากับใคร หรือหากชอบพอใครเป็นการจำเพาะ ให้เขียนชื่อเขาใส่กระดาษแล้วพันติดเอาไว้ที่หัวหมูที่เปรียบดั่งเหยื่อ แล้วสวดคาถาปลุกนึกถึงหน้าบุคคลๆนั้นให้เป็นดั่งเหยื่อที่ถูกสิงห์ตะปบ พระอาจารย์ท่านว่า เขาคนนั้นจะออกอาการทื่อๆ งงๆ เหมือนโดนตบะสิงหราชสะกดและตะปบไว้ในอุ้งเท้า แม้นพูดคุยกับเราก็พลันคล้อยตามว่าไง ว่างั้นทุกประการ

-ดีทางมหาอำนาจ ข่มศัตรูคู่แข่งต่างๆ เช่น แม้นเราไปค้าขายในสถานที่เดียวกัน คนที่ขายของชนิดเดียวกับเราเจ้าอื่นๆ จะขายหมดทีหลังเราด้วยอำนาจตบะสิงห์นี้จะไปสะกดข่มด่วงเขาเอาไว้ ทำให้เราขายหมดก่อน แม้นไปขึ้นโรงขึ้นศาลเป็นคดีความหากเราไม่ผิด ถึงจะมีการเบิกความเท็จใส่ร้ายป้ายสีเรา มันจะพูดไม่ออกเกิดอาการอึกอักและพ่ายแพ้ไปในที่สุด

-แม้นยามเดินทางหรือไปค้างคืนในต่างที่ต่างถิ่น ให้อธิษฐานบอกกล่าวเทพเทวดาที่รักษาสิงห์ตะปบเหยื่อนี้ ขอให้ช่วยคุ้มครองป้องกันภัย แม้นใครคิดร้ายส่งของหรือส่งคุณไสยมนต์ดำมาทำร้าย จะปรากฎเป็นพยนต์สิงห์เข้าปะทะและสะท้อนของนั้นกลับไปยังผู้ส่งมา พระอาจารย์ว่าถ้าครูของเขาไม่แข็งพอ อาจถึงขั้นไฟไหม้ขันครูเลยทีเดียว

-แม้นหากใช้ทางเสี่ยงโชค เสี่ยงดวง หรือจะไปเสี่ยงตามประเทศเพื่อนบ้านหรือในบ้าน ให้พลันสวดคาถาปลุก อธิษฐานขอบารมีเทวดาที่รักษาสิงห์นี้ประหนึ่งดั่งการเสี่ยงทาย หากรู้สึกอึดอัดหายใจหายคอไม่สะดวกวิตกกังวล ก็ให้ล้มเลิกเสีย ท่านว่าไปจะไม่เป็นผล แต่หากสวดปลุกแล้วเกิดอาการขนลุกขนชันวูบวาบ สบายอกสบายใจ ปลอดโปร่ง ท่านว่าการนั้นจะสำเร็จสมใจ

 พระอาจารย์ท่านว่าสิงห์ตะปบเหยื่อของท่านสำเร็จด้วยฤกษ์ ด้วยเคล็ด ด้วยครูวิชา และแรงแห่งเทวดาเข้ารักษา มิได้สำเร็จด้วยตัวท่านเองแต่ผู้เดียว ดังนั้นจึงสามารถอธิษฐานใช้พลิกแพลงได้ตามต้องการแม้นในเรื่องโลกีย์วิสัยทางโลกก็อธิษฐานขอได้เพราะสิ่งเหล่านี้เมื่อมีเทวดาเข้ารักษา ย่อมถึงพร้อมและเป็นของกายสิทธิ์

สิงห์ต้องดูองอาจสง่าผ่าเผย หางชี้ขึ้นฟ้าประหนึ่งดั่งทรงอำนาจราชศักดิ์ไม่เกรงกลัวใคร เพราะถ้าหางตกมันบ่งบอกถึงความกลัว สิงห์ต้องอ้าปากคำรามเปล่งบรรลือสีหนาท ขาซ้ายให้เหยียบหัวเหยื่อเอาไว้ เพราะเชื่อว่าแม้นพญาหมูเขี้ยวตันจะมีฤทธิ์ในตัวสักปานใด ก็ไม่อาจต่อกรกับพญาสิงห์ของท่านได้ มือขวาให้ยกขึ้นเสมออกดั่งพญาสิงห์ลำพองมิเกรงกลัวใคร พร้อมเข้าปะทะผลาญชีวีศัตรูให้แหลกลาญ ที่ฐานด้านหน้าเป็นรูปเงินสำเภาจีนโบราณ และฐานด้านหลังเป็นรูปเหรียญเงินตราสากลของโลกในปัจจุบัน แปลว่านอกจากจะชนะศัตรูคู่แข่งต่างๆแล้ว ยังเป็นผู้พิชิตความมั่งคั่งร่ำรวยด้วยโภคทรัพย์นานัปการอีกด้วย เรียกว่ามีทั้งอำนาจบารมีและเงินตราควบคู่กันไป ไม่มีอด

 

 

 

 

จากนั้นพระอาจารย์ท่านได้ให้ทางตัวแทนศิษย์ไปขอเมตตาจากพระเถราจารย์ผู้ทรงพุทธาคม จารแผ่นยันต์เพื่อเอาเคล็ดสำคัญในการ่วมหล่อสิงห์ตะปบเหยื่อรุ่นนี้ดังนี้

 

เรียกได้ว่าเคล็ดในการสร้างสิงห์ของท่านพระอาจารย์จวบนั้นสลับซับซ้อนมาก ท่านว่าของเหล่านี้หากตั้งใจ และประกอบด้วยเจตนาที่ดีอันเป็นกุศลแล้วไซร้ มันจะเป็นของกายสิทธิ์ เทวดาเขาจะพากันอนุโมทนาและเข้ารักษาวัตถุมงคลนั้นๆ แต่ในทางกลับกันหากทำไปด้วยอำนาจของกิเลส หวังปัจจัยเข้าพกเข้าห่อส่วนตัว พวกเทวดาเขาก็ถอย เสกให้ตายยังไง มันก็ไม่ขึ้นไม่ขลัง หนำซ้ำยังเหมือนไปหลอกญาติโยมเขา อาตมาทำไม่ได้จริงๆ

 

 

ในฤกษ์เททองหล่อสิงห์ตะปบเหยื่อนั้น พระอาจารย์ท่านได้กำหนดเอาฤกษ์วันที่ 31 สิงหาคม 2567 โดยท่านว่าวันนั้นเป็นวันดี และยังอยู่ในเดือนสิงหาคม ถือเคล็ดว่ากำเนิดในเดือนสิง และพระอาจารย์ท่านได้เมตตาเดินทางลงมาทำพิธีบวงสรวงและอธิษฐานจิตเททองสิงห์รุ่นนี้ด้วยตัวของท่านเองทุกขั้นตอน

 

 

 

เหตุอัศจรรย์ที่1 ในวันเททอง

ในระหว่างที่เตรียมโต๊ะเพื่อตั้งเครื่องบวงสรวง ที่มีทั้งหัวหมู บายศรี ผลหมากรากไม้อยู่นั้น ครูนิวหนึ่งในคณะศิษย์ที่ตามไปด้วยก็ได้นำธูปที่เขานิยมจุดเพื่อดูเลขจำนวน 5 อันเรียงใส่พานเดินเข้าไปหาพระอาจารย์ เพื่อขอให้เลือกออกมาให้1อัน พระอาจารย์ท่านหยิบขึ้นมาทีละอัน ทีละอันแล้ววางลง พร้อมบอกว่าในนี้ไม่มี แล้วท่านก็ชี้ให้ครูนิวไปหยิบอันที่วางอยู่ตรงมุมโต๊ะอันหนึ่งขึ้นจุด โดยท่านกล่าวว่าหากสิงห์ตะปบเหยื่อนี้จะเข้มจะขลัง ก็ขอให้เทวดาช่วยให้บังเกิดความอัศจรรย์ด้วยเด้อ! แล้วท่านก็ให้เอาธูปนั้นไปปักไว้ที่หัวหมูบนโต๊ะบวงสรวง ซึ่งได้เลขออกมา 994 ผลปรากฏว่าวันรุ่งขึ้น วันที่ 1ก.ย.2567 ผลรางวัลเลขท้าย 2 ตัวก็ออก 94 ตรงๆตามเลขธูปในพิธี ทำเอาลูกศิษย์ที่ไปร่วมพิธี รวมถึงคนงานในโรงงานหล่อพระต่างมีโชคมากน้อยไปตามๆกัน เรื่องนี้มีพยานนับสิบคน มิใช่เขียนแบบอ้างฟ้าอ้างดิน พระอาจารย์ท่านทราบ ท่านก็ได้ยิ้มแล้วบอกว่าสิงห์รุ่นนี้นิมิตดีมาก จากการเสี่ยงทายครั้งนี้ ถือว่าตะปบเหยื่อ ตะปบทรัพย์ตั้งแต่เริ่มสร้างเลย

 

 

เหตุอัศจรรย์ที่2 เรื่องของมวลสารสำคัญ

พระอาจารย์ท่านได้กล่าวกับศิษย์ที่ถวายงานว่า ถ้าอยากให้สิงห์รุ่นนี้เป็นกายสิทธิ์ ให้ไปหาเอา1.เขี้ยวหมูตัน 2.ขนสิงโต มาอุดใส่ผสมลงไป ท่านว่าผงเขี้ยวหมูตันมีฤทธิ์ในตัวและแทนรูปและนามของสัญลักษณ์เหยื่อในรุ่นนี้ ส่วนขนสิงโตนั้นแทนรูปและนามของพญาสิงห์ตะปบเหยื่อ ซึ่งจะใช้ขนอย่างอื่นแทนไม่ได้ ไอ้ตรงส่วนเขี้ยวหมูตันไม่ค่อยหนักใจ แต่ตรงขนสิงโตนี่ อาจจะหายากสักหน่อย จนมาวันหนึ่งศิษย์ท่านก็ได้โทรไปหาท่านพระอาจารย์เต๋า วัดสว่างโสภณ เพื่อขอความเมตตาเรื่องเขี้ยวหมูตัน แล้วก็ลองเอ่ยปากถามถึงเรื่องขนสิงโตดู พระอาจารย์เต๋าได้ฟังท่านก็หัวเราะ พูดกลับมาว่าโยมพี่รู้ได้ไงว่าอาตมามี เพราะอาตมาเพิ่งได้มาก่อนโยมพี่โทรหาเพียง 2-3วันเอง แล้วพระอาจารย์เต๋าท่านก็ได้เมตตาแบ่งมาให้จำนวนหนึ่งไม่มากนัก ด้วยท่านเองก็ได้มาไม่มากเช่นกัน ซึ่งนับว่าเป็นเหตุที่แปลกและบังเอิญจริงๆ ทำให้ได้มวลสารสำคัญมาครบถ้วน

 

 

ในส่วนผงมวลสารที่ใช้ผสมอุดใต้ฐานสิงห์นั้นยังมีอีกหลายอย่าง ทั้งผงลบยันต์ตบะอำนาจสิงห์ ผงมวลสารศักดิ์สิทธิ์รวมที่พระอาจารย์ท่านมอบให้ ผงว่านตระกูลเมตตา ผงดินจากภูเขาควาย คำหมากปู่สุวันคำ ว่านพะตะบะ ว่านสบู่เลือด สีผึ้งรวมถึงน้ำมันของท่านพระอาจารย์จวบฯ

 

 

เรื่องน่ารู้ของ สิงห์ตะปบเหยื่อ-ตะปบทรัพย์ พระอาจารย์จวบ วัดแสนสุขธรรมาราม ๑๐๑

ขอย่นย่อ ตัดมาเป็นความโดยสั้น ตามที่พระอาจารย์ท่านได้อธิบายดังนี้

 

-สิงห์ท่านนั้นไม่ใช่เด่นด้านมหาอำนาจอย่างเดียว เพราะถ้าแบบนั้นคนธรรมดาจะใช้ไม่ได้ พ่อค้าแม่ขายก็จะถือได้ลำบาก ท่านจึงให้ทำเป็นสิงห์ตะปบเหยื่อ คือมีทั้งอำนาจบารมี ข่มดวงศัตรูคู่แข่ง และยังมีกินมีใช้ไม่อด ค้ายขายก็ดี ตามแต่จะอธิษฐาน

 

-ในเรื่องเสน่ห์เพศตรงข้าม และเมตตาอันเกี่ยวกับทางโลกียะวิสัย ในส่วนนี้พระอาจารย์ท่านก็ได้ขอบารมีเทวดาที่รักษาวัตถุมงคลให้สงเคราะห์คนที่เขาบูชาตามแต่จะอธิษฐาน เพราะท่านว่าเปรียบตัวเราเป็นพญาสิงห์ คำว่าเหยื่อ เปรียบได้กับคนที่เราไปติดต่อด้วย หรือคนที่เราหมายปอง แม้นด้านทำมาหากิน ก็ต้องอาศัยตัวคนเป็นผู้นำทรัพย์สินมามอบให้ มาซื้อของอุดหนุนเราทั้งสิ้น เพราะเงินไม่มีขา มันเดินมาหาเราเองไม่ได้ ต้องอาศัยเหยื่อหรือคนนำมา

 

-ในส่วนด้านคุ้มภัยนั้น ดั่งมีพยนต์สิงห์ติดตัวไปได้ทุกที่ สามารถพกห้อยเอว ห้อยพวงกุญแจ ใส่กระเป๋าประหนึ่งเครื่องรางคู่ตัวได้ไม่มีเสื่อม แต่อย่านำไปห้อยรวมกับพระ เพราะมันแลดูไม่สมควร

 

 

อำนาจทางโลกและทางธรรม เคล็ดแห่งสิงห์

เมื่อสิงห์หล่อขัดแต่งสมบูรณ์แล้ว ทางพระอาจารย์จวบท่านได้สั่งให้ศิษย์ทางกรุงเทพ(ถือเคล็ดว่าเมืองหลวงเมืองเอก) นำเอาสิงห์ทั้งหมดทำพิธีเอาเคล็ดเป็นปฐมฤกษ์ โดยให้หาคนที่มียศฐาบรรดาศักดิ์มา 1คน และให้หาพระสงฆ์ทรงสมณศักดิ์ ระดับชั้นเจ้าคุณฯมา 1 รูป ในการทำเคล็ดนี้ ด้วยท่านว่าสิงห์นี้จะได้ทรงอำนาจราชศักดิ์ทั้งทางโลกและทางธรรมควบคู่กันไป

 

เหตุอัศจรรย์ที่3ขึ้นต้นก็ประจวบลงท้ายก็ประจวบ

 

 

ในการทำเคล็ดครั้งนี้พระอาจารย์กำหนดให้ทำในวันศุกร์ที่ 27 ก.ย.2567 ซึ่งมีวันนี้วันเดียวเท่านั้นที่ฤกษ์ดี ตัวแทนผู้มียศทางโลกได้ท่านพันเอกพิเศษ มโนรถ นายทหารกระทรวงกลาโหม เป็นตัวแทน ในส่วนทางธรรมนั้นตอนแรกได้มีการประสานไปที่วัดหนึ่ง แต่ปรากฎก่อนถึงฤกษ์แค่1วัน ปรากฎว่าพระคุณเจ้ารูปนั้นติดธุระด่วนไม่อยู่ คราวนี้ทางศิษย์ก็ช่วยหากันจ้าละหวั่น โทรวัดนู้นประสานวัดนี้อีกหลายวัด ส่วนมากก็ได้คำตอบว่าไม่อยู่ เพราะเจ้าคุณฯเหล่านั้นต้องเดินทางไปเรื่องน้ำท่วมทางภาคเหนือ

 

 

 

 

ท้ายที่สุดเวลา 20.00น.จึงมาได้ที่ท่านเจ้าคุณพระเทพประสิทธิคุณ (ประจวบ ขนฺติธโร ป.ธ.๔) เจ้าอาวาสวัดระฆังโฆสิตารามวรมหาวิหาร กรุงเทพ หรือที่หลายคนมักเรียกท่านว่า "เจ้าคุณฯจวบ" พอถึงกำหนดวันที่27 ตามฤกษ์ ในวันนั้นอากาศร้อนมากเรียกว่าแดดเปรี้ยงเลยทีเดียว ทางคณะนำโดยท่านผู้พันมโนรถ ก็เข้ากราบขอเมตตาจากเจ้าคุณจวบ แผ่เมตตาให้กับสิงห์รุ่นนี้ โดยเมื่อท่านเริ่มสวดอาราธนาบารมีสมเด็จฯโต และสวดพระคาถาชิญบัญชร ก็เกิดฝนตกลงมาอย่างหนักแบบไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย และเกิดเสียงหวอดังสนั่นไปทั่วบริเวณนั้น และพลันท่านเจ้าคุณจวบออกจากสมาธิ และประพรมน้ำมนต์ ฝนก็หยุดตกขาดลงเม็ดทันที นับเป็นเรื่องน่าแปลกยิ่งนัก ก่อนลากลับท่านเจ้าคุณยังบอกว่าหากปลุกเสกเสร็จแล้ว ขอให้นำกลับมามอบให้ท่านบ้าง เพราะสวยและท่านก็ชอบ

 

 

เก็บตกเหตุอัศจรรย์หลังเสร็จพิธี

-พระอาจารย์จวบ บอกว่าวันนั้นเป็นวันดี เป็นฤกษ์ดาวสามดวง ซึ่งก็น่าแปลกว่าผู้พันมโนรถที่ยกไปก็มีดาวสามดวงบนบ่าตรงกับฤกษ์พอดี พระอาจารย์บอกว่า พันเอกพิเศษนี่น่ะดีมาก เพราะคำว่าพิเศษคือได้อะไรเป็นพิเศษมากกว่าเดิมอีกด้วยนะ

 

-ฝนที่ตกหรือแม้นแต่หวอที่ดังลั่น ล้วนสำเร็จเป็นนิมิตจากเหล่าเทพเทวดา ดลบันดาลให้เห็นให้รับรู้ถึงฤทธิ์และอำนาจของสิงห์รุ่นนี้

 

-ส่วนพระที่ท่านเมตตาทำเคล็ดพิธีให้นั้น สมณศักดิ์ท่านคือ พระเทพประสิทธิคุณ หากแปลง่ายๆก็คือ เทพเทวาประสิทธิให้สำเร็จ และน่าแปลกว่า ชื่อท่านเจ้าคุณก็คือ ประจวบ ซึ่งตรงกับชื่อพระอาจารย์ จึงเรียกได้ว่า "ขึ้นต้นก็ประจวบปิดท้ายก็ประจวบ" หากจะว่าบังเอิญก็อาจใช่ แต่สำหรับเหล่าศิษย์ถือว่าน่าอัศจรรย์ใจยิ่งในความบังเอิญนี้ จนอาจเรียกได้ว่า เรื่องบังเอิญไม่มีอยู่จริงทุกสิ่งครูบาอาจารย์เทพเทวดาท่านได้ล้วนกำหนดไว้แล้วทั้งสิ้น

 

 

 

-หลังเสร็จพิธีพระอาจารย์ท่านได้โทรสอบถามว่า ท่านเจ้าคุณจวบได้พูดว่าอย่างไรบ้าง  ซึ่งทางลูกศิษย์ก็เรียนให้พระอาจารย์ทราบว่า ท่านเจ้าคุณรับทราบถึงเจตนาแล้วกล่าวอวยพรว่าดีมากและขอให้สำเร็จสมปรารถนาทุกประการ พระอาจารย์จวบฟังแล้วท่านก็บอกว่าดี เพราะว่าคำแรกที่เจ้าคุณจวบอวยพรนี้ก็ถือเป็นเคล็ดอีกอย่างหนึ่งเช่นกัน

 

 

และนอกจากนี้ยังมีเศรษฐีคหบดีประเทศลาว ผู้ศรัทธาในพระอาจารย์จวบได้นำเอาสิงห์ชุดนี้ไปขอบารมีแผ่เมตตาประพรมน้ำมนต์จากพระเถราจารย์ผู้โด่งดังใน ส.ป.ป.ลาว อีก 2 รูปเพิ่อความเป็นมงคล นั่นก็คือ

1.พระมหาบุญมา สิมมาพรม ( ພຣະມະຫາບຸນມາ ສິມມາພົມ )ประทานศูนย์กลางองค์การพุธศาสนาแห่งส.ป.ป.ลาว

2.หลวงปู่สุวันคำ จันทสาโร ( ຫລວງປູ່ສຸວັນຄຳ ຈັນທະສາໂຣ ) วัดป่าพระธรรมเทพพวงศ์ ภูเขาควาย ส.ป.ป.ลาว 

 

สิงห์ตะปบเหยื่อที่จะเปิดจองมีทั้งหมด 3 รายการ ดังนี้

1.ชุดประธานอุปถัมภ์ รับวัตถุมงคล 2 รายการ สร้าง 16ชุด

1.1เนื้อเงิน ใต้ฐานอุดผง ฝังตะกรุดทองคำ-เงิน ขนสิง เศษเขี้ยวหมูตัน เม็ดชนวนโลหะ ลูกปัดโบราณ พลอยเสก ไม่ไก่กุ๊ก โรยแร่เสก

1.2เนื้อนวะโลหะกลับดำ ใต้ฐานอุดผง ฝังตะกรุดทองคำ-เงิน ขนสิง เศษเขี้ยวหมูตัน ลูกปัดโบราณ พลอยเสก โรยแร่เสก

 

2. เนื้อสัมฤทธิ์โบราณ ตัวครู สร้าง 108ตัว

ใต้ฐานอุดผง ฝังตะกรุดเงินคู่ 2ดอก ขนสิง ผงเขี้ยวหมูตัน ลูกปัดโบราณ พลอยเสก ไม่ไก่กุ๊ก โรยแร่เสก

 

3.เนื้อทองผสมชนวนผิวรุ้ง สร้าง 325ตัว

ใต้ฐานอุดผง ฝังตะกรุดทองแดง 1ดอก ผงเขี้ยวหมูตัน พลอยเสก ไม่ไก่กุ๊ก

 

สิงห์ทุกรายการจะมีคาถากำกับแนบไปด้วย