ขุนแผนเทพชุมนุม-สีผึ้งเทพรำลึก พระอาจารย์จวบ 2567
พระขุนแผนมหาเสน่ห์เทพชุมนุม พระอาจารย์จวบ วัดแสนสุขธรรมาราม จ.ร้อยเอ็ด ขอลงรายละเอียดทั้งหมดไว้แบบตอนเดียวจบดังนี้
เมื่อราวต้นปี พ.ศ.2567 พระอาจารย์ท่านได้ให้หาช่างทำพิมพ์พระขุนแผนถวายท่านพิมพ์หนึ่ง โดยที่ด้านหน้าให้เป็นรูปพระพุทธนั่งในซุ้มเรือนแก้ว พร้อมมีม่านที่กำลังถูกแหวกออก(แหวกม่าน) ด้านข้างให้มีพญานาคสองตนซ้ายขวา โดยพระอาจารย์ท่านอธิบายว่า ด้วยปีนี้เป็นปีมะโรงปีงูใหญ่ พญานาคท่านจะมาช่วยสร้างบารมี มาช่วยค้ำชูพระศาสนา ส่วนที่แหวกม่านนั้นหมายถึงการนำพาคนที่มีศรัทธาในพระศาสนาก้าวผ่านพ้นเรื่องร้ายและปัญหาไปได้ ส่วนด้านหลังท่านให้ใส่ยันต์รินคำหลวง(สาริกาลิ้นทอง) อันปรากฏอยู่ในตำราของพระอาจารย์ที่ท่านได้รับการสืบทอดมาและมีความเชี่ยวชาญยิ่ง โดยท่านบอกว่าให้ทำพิมพ์พระไม่ต้องใหญ่มากนัก เอาแบบห้อยได้ทั้งชายและหญิง ขนาดพอๆกับขุนแผนหลวงปู่ทิมพิมพ์เ้ล็ก จะได้ไม่เปลืองผงมากนัก
ในส่วนมวลสารนั้นพระอาจารย์ท่านได้ไปกู้ว่าน บัตรพลีเองจากแถวเทือกเขาภูพาน ด้วยท่านถือว่าเป็นของดีตามธรรมชาติ เพราะว่านของท่านนั้นห้ามหมาฉี่ใส่ ไก่จิก หรือคนเดินข้าม แม้นแต่ถ้าบริเวณนั้นมีน้ำโสโครกไหลผ่านก็ไม่ได้ ด้วยว่านจะซับเอาของพวกนี้เข้าและทำให้เสื่อมอิทธิคุณ จึงต้องไปเอาที่ในป่าลึกเท่านั้นด้วยเชื่อว่าจะมีเทพพญาธรรักษาอยู่ เช่นว่านสาวหลง ดินสอฤาษี เส้นผมนางไม้(เครือเขาหลง ตัวผู้-ตัวเมีย) รวมถึงว่านอีกมากมาย
นอกจากนั้นพระอาจารย์ยังเขียนลบผงหัวใจจินดามณีหรือทางสายวิชาท่านเรียกมนต์แม่ยักษ์ขิณีผสมลงไปในพระชุดนี้ด้วย ในส่วนตะกรุดที่ฝังท่านได้ลงนะจินดามณีดอกหนึ่งและรินทองหลวงดอกหนึ่ง โดยพระอาจารย์ท่านได้ทำพิธีกดนำฤกษ์ขุนแผนชุดประธานอุปถัมภ์และแบบองค์ครูด้วยตัวท่านเอง หน้าองค์หลวงพ่อแสนสุขภายในวัด
ในส่วนมนต์วิชาที่พระอาจารย์ท่านได้ประจุคุณลงไปนั้น มีมากมายเช่น สาริกาหลวงรินคำ สาริกาแก้วสามประการ ช้างเทียมแม่ วัวเทียมเกวียน (หากยังไม่มีคู่ ก็จะได้คู่อุปถัมภ์ หากมีคู่แล้วจะดีทางค้ำชูดวงชะตา) มหารำลึก รินทองหลวง กล่อมนางนอน กาจับหลัก สายประสิทธิ์รินทอง สายฟ้าฟาด(เชื่อว่าแม้นยิ้มให้ใครดั่งสายฟ้าฟาดเข้ากลางใจ) โดยต้องขึ้นคายครูใหญ่ตามสายวิชา เพื่อให้เป็นที่สุดตามตำรา พุทธคุณพระขุนแผนชุดนี้หากพูดตามมนตราสายวิชาที่เสก ท่านว่าลงไว้ครบทุกทางแต่จะเน้นหนักทางเสน่ห์มหานิยมโชคลาภ ด้วยบทที่ใช้เสกยืนพื้นเลยนั้นคือบทครูอ้อ อ้อมหาเสน่ห์ อ้อมหานิยมของทางอีสาน อ้อโบราณฯ
ในด้านการปลุกเสกพระขุนแผนชุดนี้พระอาจารย์ท่านปลุกเสกเรื่อยมานานหลายเดือน โดยท่านบอกว่าเมื่อถึงจุดหนึ่งที่มันเต็มกำลังทางมหาเสน่ห์มหานิยมเต็มที่แล้ว ซึ่งเมื่อถึงจุดนี้ท่านต้องถอนสมาธิคลายมนต์แล้วลดระดับลงมา เพราะด้วยอำนาจครูมนต์ของท่านนั้นจะไปดลบันดาลให้เหล่าเพชรพญาธรเกิดความร้อนลุ่ม และถ้าหากท่านยังไม่หยุดเสก มันก็จะไปดึงพวกเพชรพญาธรลงมา คราวนี้พอเวลาคนเอาไปบูชามันก็จะร้อน พวกเพชรพญาธรมันจะชอบพาไปลองของ มันจะพาออกเที่ยวไปนั่นไปนี่ ดังนั้นท่านจึงต้องควบคุมตรงนี้ไว้ ไม่ให้เกิดโทษใดๆกับผู้ที่ได้ไปบูชา
สีผึ้งเทพรำลึก พระอาจารย์จวบ วัดแสนสุขธรรมาราม จ.ร้อยเอ็ด ขอลงรายละเอียดทั้งหมดไว้แบบตอนเดียวจบดังนี้
**อดทนอ่านหน่อย รับรองว่าเด็ด
สีผึ้งชุดนี้พระอาจารย์เมตตาเล่าว่า สำเร็จจากครูเทพครูเทวดา เป็นดั่งของเนรมิต ที่มิอาจหาพบได้ในตำราทั่วไป ท่านว่าหากเสี่ยงตั้งสัจจะอธิษฐานแล้วจักทำไปเพื่อเป็นประโยชน์กับพระศาสนา ครูเนรมิตครูวิชา ท่านก็จะมาบอกวิธีการต่างๆให้เอง ว่าต้องทำอะไรมีวิธีขั้นตอนและเสกแบบไหน ยังไงบ้าง แต่หากครูท่านเห็ยว่าทำไปเพื่อประโยชน์ลาภยศส่วนตัว ครูเหล่านั้นท่านก็จะไม่ให้วิชาเหล่านี้
**(ซึ่งตรงนี้ท่านว่ามันเป็นเรื่องที่รู้ได้เฉพาะตนจริงๆ แต่หากโยมได้สมาธิจิตแล้ว โยมกำหนดจิตตรวจดูก็จะกระจ่างแจ้งแก่ใจของโยมเอง ว่าคำว่าของเนรมิตมันเป็นยังไง)
ตัวสีผึ้งนั้นทำมาจากขี้ผึ้งเทียนครูที่ใช้ยกคายครูวิชาต่างๆ เช่นคายครูอ้อ หรือเทียนพิธีบวงสรวงเทวดาสำคัญๆต่างๆ โดยเก็บสะสมรวบรวมเรื่อยมา และที่ขาดไม่ได้คือว่านเสน่ห์จันทร์ทั้งห้า ว่านสาวหลงฯ แต่ว่าของพวกนี้ต้องอยู่ในป่าธรรมชาติแล้วไปพลีเก็บกู้มาตามเคล็ดวิชา คล้ายมวลสารพระขุนแผน ภายในตลับกรรมการจะบรรจุตะกรุดหัวใจเทพรำลึกตัวผู้-ตัวเมีย รวมถึงไม้ไก่กุกที่จิกวิ่งเข้าบ้านเศรษฐี แต่ในตลับพิเศษชุดประธานอุปถัมภ์จะเป็นสีผึ้งก้นหม้อที่เข้มข้นกว่าด้วยแก่ว่านยา และใส่แม่นางกวัก รวมถึงพระอาจารย์ได้ลงจารกำกับพิเศษที่ก้นตลับเพิ่มให้อีกด้วย
โดยความตั้งใจแต่เดิม พระอาจารย์ท่านจะหุงสีผึ้งเทพรำลึกนี้บรรจุฐานพระพุทธเพื่อน้อมถวายเป็นพุทธบูชา ด้วยมีความเชื่อว่าหากญาติโยมได้มาไหว้มากราบ ด้วยอำนาจฤทธิ์แห่งเทพเทวดา จะได้ดลบันดาลให้สิ่งที่อธิษฐานขอพรนั้นสำเร็จ และยังดลจิตดลใจให้พวกเขาเหล่านั้น พากันรำลึกนึกถึงพระพุทธรูปองค์นี้ จะได้พากันกลับมาไหว้มาทำบุญอีก วัดวาอารามก็จะได้ไม่รกร้าง พระอาจารย์ท่านจึงว่าสีผึ้งนี้ส่วนนึงจึงสำเร็จด้วยพุทธบารมี และก็สำเร็จด้วยเทวะบารมีครูเทพเทวดาที่เขาจะมาช่วยเหลือค้ำจุนพระศาสนา
อิทธิคุณและวิธีใช้ของสีผึ้งเทพรำลึกนี้ มีความเชื่อตามนี้คือ
-พระอาจารย์ท่านว่าหมายเลขหนึ่งเลยก็คือ มหาเสน่ห์คิดถึงไม่รู้ลืม แม้นคนไม่ชอบหน้าก็พลันจะคิดถึงแต่สิ่งที่ดีๆจนกลับกลายเป็นเมตตาจิตต่อเรา และยังสามารถใช้ได้ทุกแนวทั้งค้าขาย จนถึงเตือนภัยหรือแม้แต่ดลใจให้บังเกิดเทพสังหรณ์ดีร้ายต่างๆ ซึ่งสุดแท้แต่เราจะใช้ 
-แม้นเรามีสีผึ้งนี้พกอยู่หากไปพบผู้ใดที่มีภูติผีแฝงร่างอยู่ คนๆนั้นก็จะแสดงอาการออกมาให้เห็น ตรงนี้พระอาจารย์ท่านว่าแต่ไม่ถึงกับใช้สีผึ้งนี้ไล่ผี เพียงแต่เขาจะแสดงอาการออกมาด้วยมันต้านกับพลังของเทวานุภาพในสีผึ้ง
-หากจะไปติดต่อการงาน ประกอบการค้าขายเอาสีผึ้งแต้มๆแตะๆสินค้าที่จะขาย แม้นเป็นสินค้าชิ้นใหญ่ที่ขายไม่ได้มานานก็จะเร่งทบวันเวลาให้เร็วขึ้นจนขายได้สำเร็จในที่สุด โดยให้สังเกตเมื่ออธิษฐานใช้สีผึ้งนี้แล้ว พลันเกิดความปีติขนลุก ขนพองอิ่มเอิบใจ ท่านว่าไปเถิดสำเร็จแน่นอน แต่หากแม้นเกิดอาการจุกแน่น มึนตื้อ ไม่สบายตัวไม่สบายใจ ท่านว่าการแบบนี้จะมีอุปสรรคและไม่สำเร็จ ด้วยเพราะสีผึ้งนี้มีเทวคุณทางเสี่ยงทายอยู่ด้วย หรือหากแม้นเดินทางใกล้ไกลให้เอาสีผึ้งแต้มที่พาหนะแล้วอธิษฐาน จะบังเกิดความปลอดภัยทั้งไปและกลับ
-ส่วนในเรื่องใช้ทางเสน่ห์ ความรักและคู่ครอง รวมถึงเรื่องใช้ป้ายคนที่หมายปองได้ไหม ขอไม่อธิบายตรงนี้ จะไปบอกวิธีใช้ในใบคาถาสำหรับคนบูชาเท่านั้น ด้วยพระอาจารย์ท่านว่าคนที่เขาจะได้ไว้บูชาต้องล้วนมีบุญสัมพันธ์ ค่อยไปบอกการใช้ส่วนนี้ให้กับเขาเหล่านั้นภายหลังก็แล้วกัน **คิดดูถ้าสีผึ้งท่านไม่แรงจริง เมื่อสมัยรุ่นแรกๆท่านคงไม่เอาไปฝังไว้ในเสาวัดทั้งหมดเป็นแน่
-แม้นหากจะไปหาที่ซื้อที่ดินหรือเช่าร้านไว้ทำมาค้าขาย สร้างบ้านเรือน ร้านค้าบริษัท ให้พลันอธิฐานเอาเถิด ว่าภูมิเทพเทวดาที่ตรงนั้น หากข้าพเจ้าจะมาทำมาค้าขายหรืออยู่อาศัย ณ ที่ตรงนี้จะดีจะมีความรุ่งเรือง ทำมาค้าคล่องหรือไม่? พระอาจารย์ว่าหากไม่มีอาการอะไรรู้สึกเฉยๆก็อย่าไปสนใจหรือตกลงเลย แต่หากมีอาการวูบวาบแผ่ซ่านไปทั่วนี่ ถึงแพงหน่อยก็ให้สู้ราคา เพราะที่ตรงนั้นให้คุณกับเราแน่นอน
-ในส่วนวิธีใช้ท่านให้ใช้นิ้วชี้ทาสีผึ้ง ด้วยเป็นนิ้วที่แสดงถึงอำนาจอาญาสิทธิ์ เรียกว่าเป็นเมตตามหาเสน่ห์อำนาจแบบเด็ดขาด หากพวกศิลปินนักแสดงก็ให้ไปใช้นิ้วนาง แต่ท่านว่าก็จะออกไปทางนิ่มนวลอ้อนแอ้น อ่อนหวานหน่อย จะใช้สีปาก เจิมหน้าผาก แต้มคิ้ว หรือทาบริเวณหัวใจที่หน้าอกก็ได้ แต่ห้ามใช้ทาต่ำกว่าหน้าอกเราลงมา และห้ามใส่กระเป๋ากางเกงหรือพกต่ำ
ด้วยสีผึ้งเทพรำลึกนี้เป็นวิชาตามบุพนิมิต เป็นวิชาเฉพาะตัว เฉพาะตนของพระอาจารย์ ในส่วนการปลุกเสกจึงเปิดเผยได้บางส่วน
ในส่วนพิธีปลุกเสกปิดท้ายนั้นพระอาจารย์ท่านได้กางกั้นมณฑลพิธี ตั้งราชวัตรฉัตรธงดาดผ้าเพดานแบบจารีตโบราณ จัดแต่งเครื่องคายครูชั้นสูงตามตำรา พร้อมอาราธนานิมนต์พระเพื่อมาสวดเจริญพระพุทธมนต์บทมหาสมัยสูตรและประกอบพิธีทำบุญถวายทักษิณานุปทาน อุทิศให้แก่ครูบาอาจารย์ผู้เป็นเจ้าของวิชา รวมถึงเทพเทวดาทั้งหลายให้ได้ร่วมอนุโมทนา ที่พากันลงมาสร้างบารมีร่วมกับท่าน
โดยในส่วนมนต์บางบทด้วยวิสัยของสมณะอันมีเรื่องของศีลมากางกั้น พระอาจารย์ท่านก็จะทำการครอบให้กับบัณฑิตพราหมณ์ของทางวัด ให้เป็นผู้อ่านและสาธยายโองการและมนต์เหล่านั้นประจุคุณวิชาแทน โดยบัณฑิตพราหมณ์ของทางวัดทั้ง 4ท่าน อันถือเป็นตัวแทนของเทพพรหมเทวดาทั้ง4ทิศที่มาร่วมพิธี ล้วนมีนามอันเป็นมงคลดังนี้ เสน่ห์ ศักดิ์สิทธิ์ ฤทธิ์ ยืนยง
เมื่อเสร็จในส่วนของพรหามณ์แล้ว คณะพรหามณ์ทั้งหมดก็ได้พากันถวายวัตถุมงคลทั้งหมดให้เป็นสมบัติของสงฆ์ หลังจากนั้นพระอาจารย์พร้อมคณะสงฆ์จึงค่อยทำการผาติกรรมและมอบประสิทธิให้มาออกบูชาร่วมทำบุญสืบไป พระอาจารย์ท่านเผยว่าที่ต้องทำแบบนี้ด้วยเมื่อเป็นของสงฆ์แล้วเทพเทวดาครูวิชาท่านจะยิ่งมีกำลังมาก บังเกิดอานุภาพด้วยถือเป็นสมบัติของพระศาสนา และเกิดเป็นบุญต่อตัวเขาเองตลอดจนถึงคณะพราหมณ์หรือแม้แต่ผู้ได้ร่วมทำ ร่วมสร้าง เรียกว่าใครได้บูชาวัตถุมงคลชุดนี้ไป ได้บุญสองต่อ ที่ไหนเขาทำกันยังไง อาตมาไม่รู้ แต่ที่นี่วัดแสนสุขฯอาตมายึดถือแบบนี้ตามบุพนิมิต
เกร็ดในระหว่างพิธีปลุกเสก พระอาจารย์เล่าว่าทุกครั้งที่มีการเสกพระชุดนี้ จะบังเกิดฟ้าร้อง ลม และฝนทุกครั้ง ไม่ว่าจะเสกวันไหนเวลาใด ก็จะเกิดเหตุการณ์แบบนี้ ท่านบอก ฟ้าร้องคือชื่อเสียงเกียรติยศ ส่วนลมนั้นคือเสน่ห์เมตตา ในส่วนฝนนั้นคือความอุดมสมบูรณ์ทรัพย์สินเงินทอง และในระหว่างพิธียังมีทั้งหนูที่วิ่งมาวนรอบหม้อสีผึ้งแล้วแอบเข้าไปข้างใต้ หรือแม้กระทั้งผีเสื้อตัวใหญ่สีดำ(โม่งดำ)บินเข้ามาวนทำทักษิณาวัตรในพิธีแล้วก็บินออกไปทางองค์พระพุทธ ล้วนนับเป็นนิมิตที่ดีทั้งสิ้น ซึ่งคนในพิธีต่างรับรู้และเห็นด้วยกันทั้งหมด
ท้ายที่สุดของพิธีพระอาจารย์ท่านได้หยิบขวดเหล้าในขันธ์ครูขึ้นมาเปิดฝา พร้อมตั้งสัจจะอธิษฐานว่า "เหล้านี้มีความซื่อสัตย์กับทุกคน คนกินคนเมา หมากินหมาเมา มีฤทธิ์บ่จืดบ่จาง วัตถุมงคลทั้งหลายเหล่านี้ก็ขอให้มีฤทธิ์เฉกเช่นเดียวกับเหล้านี้" แล้วท่านก็ยื่นส่งให้พราหมณ์ไปหลั่งรดลงบนพื้นแม่พระธรณีเป็นดั่งประกาศิตต่อวัตถุมงคลชุดนี้
รายการที่เปิดจองมีดังนี้(พระขุนแผนมีขนาดสูงประมาณ 2.6ซม.กว้างประมาณ 2ซม. ตลับสีผึ้งบรรจุ 10กรัม)
รายการที่1.ชุดประธานอุปถัมภ์ จัดสร้าง 19 ชุด รับวัตถุมงคล 2รายการ คือ
-พระขุนแผนมหาเสน่ห์เทพชุมนุม กดนำฤกษ์โดยพระอาจารย์เอง เนื้อหัวเชื้อแก่มวลสาร ฝังตะกรุดรินทองหลวง(สาริกาลิ้นทอง)เนื้อทองคำ ฝังตะกรุดจินดามณีเนื้อเงิน ติดแผ่นทองคำโค๊ตเลขกำกับที่ขอบด้านล่าง
-สีผึ้งเทพรำลึก แบบพิเศษก้นหม้อแก่ผงว่านน้ำมันต่างๆ ฝังนางกวัก ฝังตะกรุดเทพรำลึกตัวผู้ตัวเมีย ฝังไม้ไก่กุก(วิ่งเข้าบ้านเศรษฐี) ก้นตลับพระอาจารย์จวบจารยันต์กำกับเองทุกตลับ
รายการที่2.พระขุนแผนมหาเสน่ห์เทพชุมนุม องค์ครู กดในฤกษ์โดยพระอาจารย์เอง เนื้อเข้มข้นแก่มวลสาร ฝังตะกรุดรินทองหลวง(สาริกาลิ้นทอง)เนื้อทองคำ 1 ดอก ติดแผ่นเงินโค๊ตเลขกำกับที่ขอบด้านล่าง สร้างเพียง 59 องค์
รายการที่3.พระขุนแผนมหาเสน่ห์เทพชุมนุม แบบกรรมการ ฝังตะกรุดรินทองหลวง(สาริกาลิ้นทอง)เนื้อเงิน 1ดอก มีโค๊ตหมายเลขกำกับที่ขอบด้านล่าง สร้างเพียง 499 องค์
รายการที่4.สีผึ้งเทพรำลึก ตลับกรรมการ ฝังตะกรุดเทพรำลึกตัวผู้ตัวเมีย ฝังไม้ไก่กุก(วิ่งเข้าบ้านเศรษฐี) จัดสร้างเพียง 300 ตลับ
**ทุกรายการจะมีวิธีการบูชา รวมถึงเคล็ดลับอย่างละเอียดแนบไปให้พร้อมวัตถุมงคลทุกองค์
