บัวบังใบ มหาละลวยแฝด บ้านคุ้มเทวา
เสน่ห์บัวบังใบ (มหาละลวยแฝด) บ้านคุ้มเทวา
"โอ้แม่บัวเอ๋ยเจ้าบัวบังใบ
บดบังไปมาบังจิตกายา
ให้เกิดกิเลสตัณหาเมามัว
หญิงชายถ้วนทั่วดั่งบัวบังใบ"
อันวิชาบัวบังใบนั้นทางผู้เขียนได้ยินกิตติศัพท์มาตั้งแต่สมัยเมื่อ30กว่าปีที่แล้ว ว่าเป็นเลิศในด้านสายมหาเสน่ห์ เมตตาอีกแขนงหนึ่ง มิได้เป็นสองรองใครเลย ซึ่งมีหลวงพ่อไสวเป็นต้นตำรับอันโด่งดัง แต่ในสมัยนั้นที่ผู้เขียนไปหาหลวงพ่อไสว ท่านเมตตาสงเคราะห์เพียงเรื่องการตบทองเข้าหน้าผากให้ ด้วยผู้เขียนยังเรียนอยู่แค่ชั้นมัธยมต้น เลยไม่ได้มีโอกาสยกครูกับท่านโดยตรงจวบจนท่านมรณะภาพ แต่ภายหลังต่อมาตัวผู้เขียนได้มีโอกาสรับการถ่ายทอดตำรา รวมถึงชี้แนะวิชานี้มาจากลูกศิษย์ของหลวงพ่อไสว โดยมีท่านพระครูปลัดพิจารย์ วิจารโณ เจ้าอาวาสวัดโพธิ์ผักไห่ ท่านพระครูสมุห์สมศักดิ์(ออด) สุมโน วัดอัปสรสวรรค์(ปัจจุบันมรณะภาพแล้ว) และท่านอาจารย์มนัส คลังแสงพระเวทย์ พร้อมทั้งเคยได้เห็นอิทธิคุณอันศักดิ์สิทธิ์ของบัวบังใบอยู่หลายครา จึงทำให้บังเกิดมีความศรัทธา และอยากสร้างเครื่องรางบัวบังใบนี้ขึ้นมา เพื่อเป็นการบูชาครู บูชาคุณในสายวิชานี้สืบไป
![](/images/editor/ตอน11.jpg)
รูปลักษณ์ที่จัดสร้างขึ้นมานั้น ได้อาศัยจากเค้าโครงเดิมซึ่งเป็นผ้ายันต์ของหลวงพ่อไสวอันเป็นการให้ความเคารพและไม่ทิ้งรอยครู แต่มีการปรับเปลี่ยนบางส่วนเพื่อให้เกิดความสวยงามตามยุคสมัยมากขึ้น โดยกำหนดเอาเป็นรูปหัวใจแทนความรัก ความเสน่หาในโลกมนุษย์ใบนี้ และเพิ่มรูปยันต์บัวบังใบขึ้นเป็นสองด้านทั้งซ้ายและขวา ดั่งดอกบัวแฝด(ซึ่งจะขอกล่าวถึงที่มาในตอนต่อไป) ซึ่งในรูปลักษณ์บัวแฝดแบบนี้ อุปมาดั่งมนตรามหาละลวยแฝด หรือการยกกำลังสองแห่งพลังฤทธิคุณให้บังเกิดเพิ่มพูนขึ้นไปอีกเป็นเท่าทวี
หากเรามองในมุมทางโลกียะ อันเป็นเรื่องทางโลกของปุถุชนเราๆท่านๆ บัวบังใบนั้น ตัวดอกบัวเองคล้ายตัวแทนแห่งเพศชายคือศิวลึงค์(พ่อ) และใบบัวนั้นแทนด้วยเพศหญิงคือโยนิ(แม่) เมื่อดอกบัวและใบบัวมาแนบชิดสนิทกัน ย่อมก่อเกิดพลังแห่งความรัก และความสุขสมปรารถนาซาบซ่านฤดี ซึ่งในทางฮินดูก็เชื่อว่าการเสพสมในรสรักนั้นเป็นสิ่งสวยงามตามธรรมชาติที่อยู่คู่กับมนุษย์โลกมาช้านาน มิได้เป็นการลามก หรือหยาบโลนอันใด เป็นสัญลักษณ์แห่งความเจริญงอกงามไพบูลย์ เผยแผ่ขยายเผ่าพันธุ์สืบไปของเหล่าสรรพสัตว์
ดังนั้นบัวบังใบจึงเป็นสัญลักษณ์แห่งความสุขสมดั่งปรารถนา สุขทั้งทางด้านร่างกายเเละจิตใจ แม้นคิดปรารถนาเงินทอง การงาน เกียรติยศชื่อเสียง ความรักรูปรสพิศวาส หรือสิ่งใดๆที่มนุษย์ผู้ยังมีกิเลสปรารถนาอยู่นั้น ก็จักได้สมดั่งปรารถนาทุกๆประการ ได้สุขเกษมสมใจดั่งบัวที่ได้เข้าบดบังใบสำเร็จใคร่สมฤดี ฯ
![](/images/editor/S__25272327.jpg)
ในด้านเนื้อหามวลสารของบัวบังใบรุ่นนี้นั้น ต้องกล่าวถึงปฐมเหตุแรกเริ่มเมื่อช่วงปลายปี 2563 ทางผู้เขียนได้รับมอบดอกบัวแฝดที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติมาจำนวนหลายคู่(ว่ากันว่าหายาก) ซึ่งตอนนั้นก็คิดว่าคงเป็นนิมิตที่ดีถึงเวลาที่เหมาะสมที่จะได้สร้างบัวบังใบตามที่เคารพศรัทธาในวิชาสายนี้ขึ้นมาเองสักครั้ง(เรียกว่าติดอยู่ในใจมานาน) จึงได้นำเอาดอกบัวแฝดทั้งหมดเข้าพิธีจันทร์เพ็ญเดือนสิบสอง(ลอยกระทง) เพื่อเป็นการชุบราศี โดยในครั้งนั้นได้พระเดชพระคุณหลวงปู่ทอง วัดดอนไก่ดีเป็นผู้อธิษฐานจิตให้
และผู้เขียนได้ทำการออกแบบให้นายช่างทำการแกะบลีอกเป็นรูปบัวบังใบแฝดมหาละลวย แล้วเสร็จเอาเมื่อเดือนธันวาคม 2563 จากนั้นจึงได้นำเอาผงมวลสารสำคัญๆบรรจงจัดสร้างขึ้นมา พอที่จะกล่าวให้ฟังได้ดังนี้
![](/images/editor/S__25272322.jpg)
-ผงบัวแฝด ที่อธิษฐานจิตในคืนวันเพ็ญเดือนสิบสอง จำนวนหลายคู่ ซึ่งเชื่อกันว่าผงบัวแฝดนั้นดีเด่นทางด้านเมตตามหานิยมสูง ค้ำชูดวงชะตาราศี อุปมาโบราณแม้นบัวนั้นถึงเกิดในโคลนตม แต่เมื่อเติบโตผ่านพ้นผิวน้ำขึ้นมา ย่อมถูกเก็บไปเพื่อไว้สักการะบูชาของสูง นั่นคือการไปถวายบูชาพระ อันเป็นเคล็ดว่าผู้ได้บูชาผงบัวแฝดนี้จักไม่มีวันตกต่ำในชีวิต จะมีแต่ความเจริญรุ่งเรืองยิ่งๆขึ้นไป
-ผงอิทธิเจหลวงพ่อแก้ว วัดในปากทะเล จ.เพชรบุรี ซึ่งต่อมาภายหลังหลวงพ่อแก้วรูปนี้ได้เดินธุดงค์มาอยู่ที่วัดเครือวัลย์ จ.ชลบุรี และได้สร้างตำนานพระปิดตามหาเสน่ห์อันลือลั่นที่มีราคาแพงที่สุดของเมืองไทย ซึ่งผงนี้ถือว่าเป็นผงมหาเสน่ห์ขั้นสูงที่ใครได้ครอบครองต่างหวงแหน ผงนี้ผู้เขียนได้รับความเมตตาจากท่านพระครูปลัดพิจารย์ พระอาจารย์ของผู้เขียน
![](/images/editor/S__25272324.jpg)
-น้ำมันเมตตามหานิยมของหลวงพ่อไสว ที่คุณโอ๋(ลูกศิษย์หลวงพ่อ)เคยได้นำเอาไปให้หลวงพ่อไสวท่านเมตตาลงมนต์ ประกอบวิชาไว้ให้เมื่อครั้งหลวงพ่อยังดำรงสังขารอยู่
-ผงสวาท ผงดอกรัก ผงว่านDอกทอง ผงเสน่ห์จันทร์ แป้งเสก รวมถึงว่านทางเมตตา มหาเสน่ห์ต่างๆ ที่สาธยายไม่หมดของทางสำนักฯที่เคยได้รวบรวมไว้จำนวนมาก ซึ่งใส่ลงไปไม่ยั้ง ด้วยต้องการทำเพื่อสร้างชื่อ มิได้ต้องการทำเพื่อให้เสียชื่อ ฯลฯ
![](/images/editor/S__25272325.jpg)
ในด้านอิทธิคุณของบัวบังใบ มหาละลวยแฝดนั้น เชื่อสืบๆกันมาว่า
มีอิทธิคุณเด่นชัดในด้านมหาเสน่ห์ขั้นสูงและรุนแรง ผูกจิตผูกใจให้ผู้ที่เราปรารถนารักใคร่ เกิดพิศวาสหลงใหลในตัวเรา แฝงไว้ด้วยเมตตามหานิยม และโดดเด่นด้านค้าขาย โชคลาภสุดแต่ใจผู้ใช้จะปรารถนาให้เป็นไป สามารถบูชาได้ทั้งหญิง ชาย หรือทุกสภาพเพศด้วยเป็นของวิเศษด้านเมตตา ตั้งแต่ในสมัยหลวงพ่อยังมีชีวิต หากนำไปอธิษฐานใช้ในเชิงชู้สาวรักๆใคร่ๆ หากสำเร็จสมใจ ต้องเลี้ยงดูอย่าทิ้งขว้างเป็นอันขาด ท่านว่ามันไม่ดีเพราะผิดศีลธรรม (ส่วนวิธีใช้แบบปลีกย่อย จะมีแนบไปให้สำหรับผู้บูชา)
เครื่องรางเสน่ห์บัวบังใบ มหาละลวยแฝดนั้น สามารถพกพาได้ทุกรูปแบบ จะแขวนเอว แขวนพวงกุญแจ ใส่กระเป๋าถือ กระเป๋าสะพาย กระเป๋ากางเกงไม่ห้ามเลยด้วยเป็นเครื่องรางชนิดหนึ่ง หากจะเลี่ยมกรอบสวมใส่คอ จะต้องแยกเส้นจากรูปพระสงฆ์ และห้อยอยู่ในระดับที่ต่ำกว่าเท่านั้น
![](/images/editor/S__25272338.jpg)
เครื่องรางบัวบังใบ บูชาครูสายวิชาชุดนี้ นอกจากจะโดดเด่นด้วยรูปลักษณ์ โดดเด่นด้วยเนื้อหามวลสารที่มีอิทธิคุณสุดพรรณาแล้ว ยังได้รับความเมตตาจากพ่อแม่ครูบาอาจารย์ในสายวิชาหลวงพ่อไสวที่ผู้เขียนให้ความเคารพนับถือ เมตตาประจุคุณวิชาให้อีกหลายท่าน ซึ่งพอที่จะไล่เรียงได้ดังนี้
![](/images/editor/S__25272334.jpg)
![](/images/editor/S__252723341.jpg)
1.ท่านพระครูปลัดพิจารย์ วิจารโณ เจ้าอาวาสวัดโพธิผักไห่ ท่านได้รับการประสิทธิวิชาบัวบังใบ และยันต์หน้าพระจากหลวงพ่อไสว ตั้งแต่หลวงพ่อพิจารย์ยังดำรงเพศฆราวาส โดยหลวงพ่อไสวตอนนั้นท่านได้ทำการถ่ายทอดให้ลูกบุญธรรมของท่านที่เป็นทหาร โดยทหารคนนี้ได้ขอให้หลวงพ่อพิจารย์ เป็นผู้จดบันทึกคัดลอกจากหลวงพ่อไสวให้ จึงทำให้ท่านได้รับการประสิทธิวิชานี้ไปด้วยโดยปริยาย ตัวผู้เขียน ได้รับการครอบวิชามาจากหลวงพ่อพิจารย์เป็นองค์แรก จึงได้กราบอาราธนาขอเมตตาท่านให้เป็นผู้เสกบัวบังใบชุดนี้ โดยก่อนที่จะปลุกเสกหลวงพ่อท่านได้เขียนผ้ายันต์เอาคลุมวัตถุมงคลให้และได้ทำการอัญเชิญบารมีหลวงพ่อไสวให้มาประสิทธิ และปลุกเสกจนเป็นที่พอใจ ท่านว่าดีแล้ว ใช้ได้
![](/images/editor/S__25272337.jpg)
2.ท่านอาจารย์มนัส คลังแสงพระเวทย์ ซึ่งเป็นอีกผู้หนึ่งที่ได้ครอบตำราให้กับผู้เขียน โดยอ.มนัสท่านนี้ก็ได้เรียนวิชาบัวบังใบมาจากหลวงพ่อไสวโดยตรงเมื่อหลายสิบปีก่อน โดยท่านอาจารย์ได้เมตตาปลุกเสกให้นานเป็นชั่วโมง แบบที่เรียกว่ามีอะไรก็อัดใส่ให้หมดไม่มีกั๊ก และท่านยังได้ทำการซ้อนวิชาเพื่อให้ผู้นำไปใช้บังเกิดความสว่างไสวในชีวิต ทำสิ่งใดไม่ติดไม่ขัดอีกด้วย
![](/images/editor/S__25305128.jpg)
![](/images/editor/S__25305127.jpg)
![](/images/editor/S__25305126.jpg)
3.พระเดชพระคุณหลวงพ่อชม สุทนฺโต วัดกลางขุนแผน ซึ่งหลวงพ่อชมรูปนี้ถือว่าเป็นศิษย์สายตรงที่ได้รับการถ่ายทอดวิชาจากหลวงพ่อไสวอีกรูปหนึ่ง ท่านได้บวชเรียนที่วัดปรีดารามและปรนนิบัติรับใช้หลวงพ่อไสวมาโดยตลอด หลวงพ่อไสวเองก็เมตตาเอ็นดูและถ่ายทอดวิชาให้ท่านมาก ทางผู้เขียนจึงได้ขอเมตตาหลวงพ่อชม ปลุกเสกบัวบังใบชุดนี้ ซึ่งหลวงพ่อชมก็ให้ความเมตตาเสกให้อยู่นานนับชั่วโมง และเป็นที่น่าสังเกตระหว่างปลุกเสกหลวงพ่อท่านมีอาการสั่นเทิ้มเป็นระยะๆ และนั่งเอียงคอคล้ายอากัปกิริยาของหลวงพ่อไสวเมื่อครั้งยังดำรงขันธ์อยู่ทุกประการ พี่ที่ดูแลหลวงพ่อชม บอกว่าลักษณะนี้คล้ายครูวิชาท่านลง แล้วพี่ท่านนี้ก็เอ่ยปากขอบัวบังใบรุ่นนี้จากผู้เขียนไว้เป็นที่ระลึกอีกด้วย เพราะพี่เขาว่าขลังดีแบบนี้ พอหลวงพ่อชม ท่านได้ออกจากสมาธิหลังจากปลุกเสกเสร็จ ท่านก็โปรยข้าวตอกดอกไม้ และประพรมน้ำมนต์ แล้วท่านก็พูดว่า "ดีแล้วลูก ก่อนหน้าที่จะมาหาหลวงพ่อเขาก็ทำมาดีแล้ว เอาไปใช้เถอะดี เมตตาดีครบเลย"
![](/images/editor/S__25305129.jpg)
![](/images/editor/S__25305124.jpg)
4.ท่านพระใบฎีกาศุภชัย สีลเตโช(พระอาจารย์ปุ่น) วัดใหม่กระทุ่มล้ม ด้วยผู้เขียนเองกับพระอาจารย์ปุ่นมีความคุ้นเคยและรู้จักนับถือท่านมา10กว่าปีแล้ว และเคยได้เอ่ยปากบอกท่านไว้เมื่อกลางปี 2564ว่า หากมีโอกาสจะขอเอาบัวบังใบไปให้ท่านเมตตาปลุกเสกให้ ท่านก็เมตตารับปากเป็นอย่างดี
พระอาจารย์ปุ่นรูปนี้ได้รับการครอบวิชาบัวบังใบมาจากหลวงพ่อไสวส่วนหนึ่ง แต่ยังไม่สมบูรณ์เพราะหลวงพ่อไสวมามรณะภาพไปเสียก่อน แล้วท่านก็ได้ไปต่อวิชานี้กับหลวงพ่อออด วัดอัปสรฯจนครบถ้วน ซึ่งบัวบังใบ ของบ้านคุ้มเทวาชุดนี้พระอาจารย์ปุ่น ท่านได้เมตตาอธิษฐานจิตปลุกเสกให้เป็นกรณีพิเศษอยู่นานพอสมควร ซึ่งเมื่อเสร็จพิธีท่านก็บอกว่า "เอาไปเถอะใช้ได้แล้ว เมตตาค้าขายดีมากๆ"
![](/images/editor/S__25313285.jpg)
![](/images/editor/S__25313286.jpg)
5.ปู่จุก จอมอาคม ด้วยในวันที่ผู้เขียนไปหาปู่ท่าน เป็นฤกษ์ประจวบเหมาะกับที่ท่านจะปลุกเสกเครื่องรางของท่านอยู่พอดี ผู้เขียนจึงได้สอบถามและขอนำเอาเครื่องรางบัวบังใบ ขอเมตตาปู่ท่านเสกกำกับให้ด้วยจะได้ไหม ซึ่งปู่จุกท่านบอกให้หยิบมาให้ท่านดูก่อนว่าเป็นแบบไหน จะเสกได้หรือไม่ เพื่อจะให้เป็นไปในทางเดียวกันกับมนต์วิชาของที่ท่านจะเสกในวันนั้นโดยไม่ขัดกัน ระหว่างที่หยิบให้ท่านพิจารณา ผมได้สอบถามว่าท่านรู้จักหลวงพ่อไสวไหม ท่านว่าเคยได้ยินชื่ออยู่ แต่ไม่เคยพบเจอกันนะ ดูอยู่สักครู่ปู่ท่านก็บอกว่าเสกได้ วิชาบัวบังใบอะไรฉันไม่ได้เรียนมาหรอกนะ แต่ฉันจะลงมนต์บัวบานหรือเสน่ห์บัวแย้มไว้ให้ ท่านว่ามนต์บทนี้มีมาแต่โบราณ ใช้ปลุกทางเมตตามหานิยม ใครเห็นใครก็รัก ใครเห็นใครก็ชม ดั่งดอกบัวเบ่งบานสวยงามอยู่กลางหนองกลางบึง ซึ่งปู่ท่านก็เสกให้อยู่นานมากร่วมกับมงคลวัตถุของท่าน
พอจบพิธี ท่านได้เรียกเอาน้ำมัน..... หยิบมาให้ท่าน แล้วท่านก็บรรจงเจิมน้ำมันที่บัวบังใบเฉพาะแบบพิเศษที่อยู่ในถาดเบื้องหน้าท่านให้ทุกอัน พร้อมทั้งเอามือวนไปโดยรอบดั่งกลึงมนต์สำทับให้อีกครั้ง ท่านมองหน้าผมแล้วบอกว่า ที่อยู่ในถาดนี่พิเศษไม่ใช่รึ ก็เอาให้มันพิเศษจริงๆสิ .....
![](/images/editor/S__25313287.jpg)
![](/images/editor/S__25313283.jpg)
6.เข้าพิธีจันทร์เพ็ญเดือนสิบสอง ลอยกระทงปี2564 ซึ่งทางผู้เขียนได้นำเอาเครื่องรางบัวบังใบเข้าพิธีอาบแสงจันทร์เพ็ญ เพื่อเป็นการชุบราศีและเพิ่มฤทธิคุณทางเสน่ห์เมตตา ให้ผู้นำไปใช้บูชา จักได้ผุดผ่องโสภาดั่งแสงจันทร์วันเพ็ญ และยังได้นำน้ำมนต์จันทร์เพ็ญที่ได้ประจุคุณวิชาแล้วมาประพรมลงไปที่วัตถุมงคลรุ่นนี้ เพื่อให้ถึงพร้อมทุกๆประการอีกด้วย
![](/images/editor/S__25321498.jpg)
![](/images/editor/S__25321501.jpg)
![](/images/editor/S__25321500.jpg)
วาระปิดท้ายที่สุดของพิธี ทางผู้เขียนได้จัดตั้งบายศรี ดอกไม้ธูปเทียน กราบขออัญเชิญบารมีหลวงพอ่ไสว วัดปรีดาราม และหลวงพ่ออด วัดอัปสรสวรรค์ ได้โปรดเมตตาแผ่ญานบารมีอันเป็นทิพย์ ได้โปรดมาประสิทธิบัวบังใบชุดนี้ ให้บังเกิดฤทธานุภาพ เกิดความขลังความศักดิ์สิทธิ์ประดุจดั่งที่ท่านทั้งสองได้เคยเสกไว้เมื่อครั้งมีชีวิตอยู่ทุกๆประการ
ขอให้ผู้ใดที่นำไปบูชา คิดหวังสิ่งหนึ่งสิ่งใตที่ปรารถนา ขอให้สำเร็จ สำเร็จ สำเร็จ ไม่เลือกกาลเวลา ขอให้เป็นที่เสน่หารักใคร่ของผู้คนทั้งแผ่นดิน แล้วผู้เขียนก็ได้นำเอาน้ำมันเสน่ห์ประพรมไปในถาดเนื้อพิเศษจนชุ่มฉ่ำ หอมตลบอบอวลไปทั้งห้องเป็นการปิดท้าย
บัวบังใบ มหาละลวยแฝดชุดนี้ ถือว่าครบถ้วนกระบวนความผ่านการขอบารมีจากทั้งครูเป็น และครูตาย อันครูเป็นคือสายวิชาที่สืบทอดต่อมาจากหลวงพ่อไสวหลายๆท่าน และครูตายคือบารมีจากองค์หลวงพ่อไสว และหลวงพ่อออด ในการให้ทั้งพระและอาจารย์ฆราวาสเสก เนื่องด้วยเพื่อความหลากหลาย เรื่องเสน่หาบางเรื่อง หลวงพ่อ พระคุณเจ้าท่านอาจจะติดในข้อศีลมากางกั้น ดังนั้นในส่วนมนต์วิชาบางประการในเรื่องรักๆใคร่ๆอาจารย์ฆราวาสจึงสามารถประจุคุณได้เต็มที่มากกว่า
จึงเชื่อได้ว่าบัวบังใบชุดนี้ จะเป็นเครื่องรางที่เปี่ยมด้วยฤทธิ์ ด้วยอิทธิคุณ น่าบูชาอย่างยิ่งอีกรุ่นหนึ่งแน่นอน
เครื่องรางบัวบังใบ ที่จัดสร้างครั้งนี้มีขนาดสูงประมาณ 3ซม. แบ่งออกเป็น 2 แบบ คือ
![](/images/editor/18.jpg)
1.บัวบังใบ แบบองค์ครูพิเศษ เป็นเนื้อที่ผสมผงบัวแฝดและผงหลวงพ่อแก้วจำนวนมาก รวมถึงได้เจิมน้ำมันเสน่ห์เป็นพิเศษ 2วาระ ด้านหลังฝังตะกรุดทองคำแท้ 1ดอก ตะกรุดเงินแท้ 1 ดอก ลงยันต์มหาเสน่ห์ มหาโชคลาภ ฝังพลอยเสก จัดสร้างเพียง 80 ตน
**ด้วยเป็นเนื้อมวลสารพิเศษ จึงสร้างได้จำนวนจำกัด
![](/images/editor/26.jpg)
2.บัวบังใบ แบบกรรมการ เนื้อผงบัวชมพูแฝด ผสมผงวิเศษและเข้าด้วยว่านทางเสน่ห์เมตตาต่างๆ ด้านหลังฝังตะกรุดสีเงิน 2 ดอก ลงยันต์ทางมหานิยม โชคลาภ จัดสร้างเพียง 250 ตน
**ในส่วนวิธีบูชา เคล็ดลับแบบละเอียดพร้อมคาถาจะมีมอบให้ตอนบูชา