สีผึ้งบ่วงนาคา ยอดเพชรมายา

สีผึ้งบ่วงนาคา ยอดเพชรมายา

นี่คือสุดยอดมหากาพย์ตำนานแห่งสีผึ้งมหาเสน่ห์อันร้อนแรงที่สุดแห่งปีที่ปลุกเสกผ่านพิธีน้อยใหญ่มากว่า 9 เดือนเต็ม

บ่วงนาคบาศ หรือบ่วงนาคา(แม้นหมายปองผู้ใดแล้วไซร้ มันผู้นั้นดั่งถูกบ่วงนาครัดถึงแก่นวิญญา)

ตามโบราณเชื่อกันว่า “บ่วงนาคบาศ” คือ “ศรของอินทรชิต” ที่เมื่อน้าวเล็งยิงออกไปจะกลายเป็นพญานาคาเข้ารัดศัตรู ซึ่งต่อมาในภายหลังทางฝ่ายเมืองบาดาลพญานาคราชผู้เป็นใหญ่ก็ได้มีครอบครองไว้ และพรานบุญเคยได้ไปขอยืมจาก ท้าวพญานาคราช เพราะอาวุธที่จะสามารถใช้จับหรือคล้องมโนราห์กินรีได้นั้นมีเพียงบ่วงนาคบาศหรือบ่วงนาคาเท่านั้น

อิทธิคุณของตลับสีผึ้งบ่วงนาคา ยอดเพชรมายา

เชื่อกันว่าสีผึ้งบ่วงนาคา ยอดเพชรมายารุ่นนี้มีอิทธิฤทธิ์ครบถ้วนในทุกๆด้านทั้งเมตตา มหาเสน่ห์ มหานิยม อุดมด้วยโชคลาภ โภคทรัพย์ โภคสมบัติ หรือแม้แต่ไปเสี่ยงโชคก็พึงอธิษฐานขอได้ เรียกว่าแรงตั้งแต่ตัวตลับ แรงทั้งสีผึ้งที่บรรจุอยู่ด้านใน ครอบครัวไหน หรือคู่ใดมีปัญหาทางความรัก เมื่อใช้บูชาดั่งมีศรนาคาคล้องใจมัดไว้ด้วยกัน ใช้สีปาก เจิมหน้าผาก เจิมคิ้วเดินทางไปแห่งหนตำบลใดไม่มีตกต่ำหรือตกระกำลำบากด้วยบารมีพญานาคท่านจะช่วยเมตตาค้ำชูดูแลเราเสมอ ใครเห็นก็รัก ใครเห็นก็เมตตาอยากช่วยเหลือประดุจดั่งบุตรในอุทร แต่สิ่งที่พึงระวังคือหากใช้สีผึ้งนี้ไปในทางชู้สาว แม้นสมหวัง ได้เสียแล้วไซร้ อย่าทิ้งขว้างเพราะอาถรรพ์แรงครูวิชามีสูง ควรใช้ด้วยความมีสติ มีศีลธรรมประกอบ ยิ่งจะทำให้เจริญยิ่งๆขึ้นไปทุกๆประการแลฯ

**สีผึ้งรุ่นนี้ไม่มีส่วนผสมของอาถรรพ์ หรือน้ำมันพรายใดๆทั้งสิ้น ไม่มีเข้าตัว ไม่ต้องกลัวทุกๆกรณี**

ตลับสีผึ้งรุ่นนี้จึงถูกรังสรรค์ออกแบบดีไซน์ให้มีลักษณะโดดเด่นเป็นดั่งบ่วงนาคบาศอาวุธของพรานบุญที่ใช้สำหรับคล้องเหยื่อ ด้วยรูปลักษณ์ที่ลงตัวสวยงามเพื่อให้ผู้บูชาสามารถสวมใส่ได้เป็นดั่งเครื่องประดับในทุกๆวัน ทุกๆโอกาส ไม่ต้องอายขวยเขินหรือโดนคนอื่นทักหรือแซวว่าเป็นพวกเล่นของ เพราะหากมองเผินๆจะคล้ายดั่งจี้พญานาคที่สวยงามเท่านั้น แต่ใครจะรู้ว่าข้างในกลับแฝงด้วยพลังแห่งศาสตร์เร้นลับโบราณและศิลป์เชิงช่างที่ประณีตวิจิตรบรรจง ซ้ำยังจารึกพระคาถากำกับแม่ธาตุทั้ง4 เพื่อกรึงอำนาจพลังอานุภาพแห่งสีผึ้งที่บรรจุอยู่ด้านในตลับไม่ให้เสื่อมถอย เสื่อมอิทธิคุณไปตามกาลเวลา ส่วนตรงกลางตลับนั้นยังฝังยอดเพชรมายา ที่ดูเก๋ไก๋เรียบหรูสวยงามสะดุดตามาก เรียกว่าเพียงแค่เห็นรูปลักษณ์ของตลับสีผึ้งบ่วงนาคานี้แล้ว หลายๆท่านอาจหลงใหลในมนตราพญานาคาขึ้นมาทันที ด้านตัวตลับนั้นเนื้อในหล่อหลอมมาจากทองชนวนโบราณ และชนวนบ่วงนาคบาศจากหลายๆที่ นำมาทำพิธีพลีกรรมหล่อปั๊มขึ้นมาเป็นตัวตลับสีผึ้งแล้วจึงชุบเงินอย่างดีเพื่อให้เกิดความสวยงามเวลาสวมใส่มากยิ่งขึ้น

ในด้านตัวสีผึ้งที่บรรจุด้านในนั้นทางผู้สร้างได้หาฤกษ์ยาม และประกอบพิธีอย่างเข้มขลังทุกลำดับ ทุกพิธี ไอ้แบบสุกเอา เผากินเราไม่ทำ จึงทำให้สีผึ้งรุ่นนี้ทำพิธีปลุกเสกต่างๆเรื่อยมากินเวลากว่า 9เดือนเต็ม ดังมีรายละเอียดดังนี้

พิธีครั้งที่1 วันที่ 14 กุมภา 2558 วันแห่งความรัก ได้ถือฤกษ์เบิกเตาทำพิธีกวนสีผึ้งที่ใช้เป็นตัวประสานหลักกับว่ายาบางตัวตามตำราในหม้อดินเผายามราตรี เพื่อให้ได้อิทธิคุณทางเสน่หาแบบเต็มที่ บางคนเรียกวันนี้ว่า “ฤกษ์เสียตัว หรือฤกษ์เสียสาวก็มี”

พิธีครั้งที่2 วันขึ้น15เดือน 4หรือวันมาฆบูชา ได้ถือเอาฤกษ์วันสำคัญทางพุทธศาสนา15ค่ำ บวงสรวงบอกกล่าวครูบาอาจารย์ และเหล่าพญานาคราช เพื่อให้มาประสิทธิ รับรู้ร่วมอนุโมทนาต่อการก่อกำเนิดสีผึ้งบ่วงนาคารุ่นนี้

พิธีครั้งที่3 ประกอบพิธีปลุกเสกโดย อาจารย์หมอเล็ก ครูเฒ่าอาคมขลังแห่งแดนใต้ ท่านได้ประกอบพิธีตามตำราเสน่ห์โบราณที่ท่านร่ำเรียนมาอย่างเชี่ยวชาญและเห็นผลเป็นที่ประจักษ์มาแล้วกว่า50ปี โดยครั้งนี้อาจารย์หมอเล็กได้เจาะจงให้ไปทำพิธีที่บริเวณเชิงเขาอันมีนามมงคลทางเสน่ห์ ชื่อว่า “เขานางนอน” โดยท่านได้อัญเชิญบารมีครูบาอาจารย์ของท่านมาช่วย ท่านยังได้เขียนลบผงสูตรเฉพาะที่เรียกว่าสั่งรัก สั่งหลงดั่งเสน่ห์ยาแฝดและยังได้ตั้งเตาหุงโดยใช้ไม้มงคลตามตำรา9ชนิดเป็นฟืนเช่นไม้รัก ไม้มะยม ไม้สวาทฯ เดินมนต์เคี่ยว ซัดว่านยาต่างๆ ปลุกเสกประจุอิทธิฤทธิ์ของสีผึ้งบ่วงนาคาให้เป็นหนึ่ง อุปมาดั่งบ่วงนาคาของพรานบุญ แต่สามารถใช้สะกดใจคนได้ ท้ายที่สุดของพิธีท่านได้นำลูกสะบ้า ที่เคยใช้ทำเสน่ห์ให้กับผู้คนมาแล้วมากมายมาเขียนยันต์กำกับพระเวทย์ทางเสน่หาลุ่มหลงแล้วหย่อนลงไปในหม้อสีผึ้ง เพื่อเอาเคล็ดที่ว่า “แม้นใครได้ใช้สีผึ้งรุ่นนี้แล้วไซร้ คนที่เราปรารถนาย่อมดั่งประหนึ่งเป็นบ้าคลั่งไคล้หลงใหลในเราเพียงผู้เดียว”

พิธีครั้งที่ 4 ได้รับความเมตตาจากท่านพระอาจารย์ประสูติ วัดในเตา เจ้าของตำนานเครื่องรางเจ็ดนารีพันหลัก มหาเสน่ห์อันโด่งดังแห่งเอเซีย ซึ่งท่านได้เมตตาประจุอาคมเดินพระเวทย์มนต์จินดามณี เจ็ดนารีพันหลัก กำกับลงในสีผึ้งบ่วงนาคานี้เพื่อให้ความศักดิ์สิทธิ์เพิ่มพูนขึ้นอีกเท่าทวี พระอาจารย์ท่านได้ชมว่าสีผึ้งชุดนี้หอมดีมีเสน่ห์มาก และท่านยังได้ขอตักเก็บไว้ส่วนนึงอีกด้วย

พิธีครั้งที่ 5 ท่านพระอาจารย์พล วัดเขาห้วยแห้ง หนึ่งในเกจิผู้ชาญพระเวทย์อาคมขลัง ได้เมตตานำน้ำมันเสน่ห์ที่ท่านหวงแหนและเก็บไว้มานานมากเทลงในหม้อสีผึ้ง พร้อมปลุกเสกเชิญพ่อนักสิทธิ์วิทยา พ่อเพชรพญาธร ซึ่งเป็นเทวดาจอมเจ้าชู้ให้ลงมาประสิทธิให้กับสีผึ้งบ่วงนาคารุ่นนี้ เรียกว่าใช้ได้ครบทุกทางก็แล้วกัน

พิธีครั้งที่6 โดยท่านอาจารย์สุนทร เฝือกเที่ยง เจ้าตำรับนะหน้าทองสะท้านแผ่นดิน ท่านได้เมตตาปลุกเสกที่เรือนริมน้ำบ้านของท่าน โดยท่านได้ลงพระถาคาประจุหัวใจเศรษฐีและเขียนยันต์กำกับลงในสีผึ้งทั้งเสก ทั้งเป่าจนท่านเกิดอาการปีติเต็มที่แล้วหลังจากเสกเสร็จ ท่านยังชื่นชมสั้นๆว่า “แรงดี”

พิธีครั้งที่7 โดยท่านอาจารย์ปู่บุญมา เจ้าสำนักโพธิ์นิ่มนวล ได้นำสีผึ้งหม้อนี้เข้าพิธีปลุกเสกพร้อมพระขุนแผนมหาละลวยที่มากด้วยประสบการณ์อันโด่งดังของท่าน ซึ่งหลังจากเสกพร้อมพระขุนแผนเสร็จแล้วท่านยังได้เอาหม้อสีผึ้งชุดนี้มาปลุกเสกกำกับซ้ำลงไปให้อีกเป็นกรณีพิเศษ ท่านยังบอกว่า "ทำทั้งทีให้มันดี ให้มันจริงแบบนี้น่ะดีแล้ว”

พิธีครั้งที่8 สีผึ้งบ่วงนาคาทุกตลับได้เข้าพิธีชำระอาบแสงจันทรา วันเพ็ญเดือน12 ประสะพลังประจุอำนาจแห่งเสน่ห์ มหาเมตตา มหานิยมใหญ่ ที่วัดเขาตาเงาะ จ.ชัยภูมิ

พิธีครั้งที่9 ท่านพราหมณ์วีระพงษ์ โพธิจิต ได้ประกอบพิธีบวงสรวงสังเวยบอกกล่าวต่อองค์พ่อปู่ศรีสุทโธนาคราช แม่ย่าศรีปทุมมานาคีและเหล่าบริวารของท่าน ที่ป่าคำชะโนด จ.อุดรธานี ดินแดนลี้ลับที่เชื่อกันว่าเป็นประตูเชื่อมต่อไปยังเมืองบาดาล โดยพ่อพราหมณ์ได้บวงสรวงขอให้วงศ์วานพญานาคาทั้งหลายรับรู้และร่วมอนุโมทนาประสิทธิพลังอำนาจทิพย์ลงสู่สีผึ้งทุกๆตลับ ให้ใครได้ไปบูชาดั่งมีดวงจิตพญานาคาเฝ้าสถิตตามรักษา เจริญด้วยอำนาจ ทรัพย์สินบริวาร เป็นเมตตา มหาเสน่ห์ มหานิยม มหาจังงังอย่างแรง ใครยึดถือศรัทธาให้สำเร็จถ้วนหน้าไม่เลือกกาลเวลาตลอดไป และท้ายที่สุดของพิธีพ่อพราหมณ์ได้นำน้ำทิพย์จากบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ประพรมชุบพระเวทย์ให้กับสีผึ้งบ่วงนาคาทุกๆตลับ เพื่อให้บังเกิดเป็นสื่อที่สามารถร้องขอ เชื่อมต่อทางจิตส่งไปยังพญานาคาทั้งหลายให้ท่านมาช่วยเหลือปัดเป่าได้ จึงเป็นอันจบพิธีครบถ้วนสำเร็จบริบูรณ์อุดมมงคลชัยทุกประการฯ

 

Visitors: 39,146